ธนบัตร 100 บาท แบบ 5 มีทั้งหมดมีดังนี้

ธนบัตร 100 บาท รุ่น 1 ด้านหน้า
ธนบัตร 100 บาท รุ่น 1 ด้านหลัง

ธนบัตร 100 บาท รุ่น 1


ธนบัตร 100 บาท รุ่น 2 ด้านหลัง

ธนบัตร 100 บาท รุ่น 2 เปลี่ยนเฉพาะสีด้านหลังเป็นสีน้ำเงิน


ราคาโดยประเมิน

  • ธนบัตรเปล่า ไม่มีหมายเลขและลายเซ็น สภาพ UNC ราคาประมาณ 48,400 - 50,800 บาท
  • รุ่น 1 เลขธรรมดา ลายเซ็น เภา สภาพ UNC ราคาประมาณ 99,000 - 105,000 บาท
  • รุ่น 1 เลขธรรมดา ลายเซ็น เล้ง สภาพ F ราคาประมาณ 18,900 - 19,800 บาท
  • รุ่น 2 เลขธรรมดา ลายเซ็น เล้ง สภาพ UNC ราคาประมาณ 22,500 - 23,500 บาท
  • รุ่น 2 เลขธรรมดา ลายเซ็น เล้ง สภาพ VF ราคาประมาณ 16,000 - 16,800 บาท
  • รุ่น 2 เลขธรรมดา ไม่มีลายเซ็น สภาพ UNC ราคาประมาณ 15,400 - 16,100 บาท

    ราคานี้อัพเดทเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560

    ข้อมูลธนบัตร

    ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลไทยไม่สามารถสั่งพิมพ์ธนบัตรจากบริษัทโทมัสเดอลารู ประเทศอังกฤษได้ เพราะอังกฤษอยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร ไทยจึงประสบปัญหาขาดแคลนธนบัตร รัฐบาลจึงได้ขอให้ประเทศญี่ปุ่นผลิตธนบัตรให้โดยมีบริษัท Mitsui Bussan Kaisha เป็นตัวแทนติดต่อกับโรงพิมพ์ธนบัตรของรัฐบาลญี่ปุ่น

    ธนบัตรที่สั่งพิมพ์จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับในช่วงหลังๆ แตกต่างไปจากรุ่นแรกๆ เนื่องจากในช่วงหลังๆ ญึ่ปุ่นถูกโจมตีจากฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างหนัก ทำให้วัสดุที่ใช้ในการผลิตธนบัตรขาดแคลน

    การขนส่งธนบัตรจากญี่ปุ่นมาไทยมีทั้งการขนส่งทางอากาศและทางทะเล มีครั้งหนึ่งที่บริษัท Mitsui Bussan Kaisha แจ้งว่าเครื่องบินขนส่งขัดข้องต้องร่อนลงที่เกาะไหหลำ ทำให้หีบธนบัตร 100 บาท (รุ่น 2) หมวด ป 13 และ ป 14 แตกออกและไฟไหม้สูญหายไป 11,508 ฉบับ ต่อมากลับพบว่ามีธนบัตรหมวดดังกล่าวที่มีการพิมพ์ปลอมลายเซ็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกลับเข้ามาหมุนเวียนในไทย กระทรวงการคลังได้แถลงการเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2489 แจ้งหมายเลขธนบัตรที่ถูกกฎหมาย และผ่อนผันให้ธนาคารแห่งประเทศไทยรับแลกธนบัตรปลอมหมวดนี้เฉพาะจากส่วนราชการที่มีหลักฐานเชื่อได้ว่าได้มาก่อนแถลงการณ์

    ส่วนการขนส่งทางทะเลนั้นเมื่อการโจมตีของฝ่ายสัมพันธมิตรรุนแรงขึ้น จึงได้เปลี่ยนจากการขนส่งมาที่ท่าเรือกรุงเทพไปที่ท่าเรือสิงคโปร์แล้วลำเลียงเข้ากรุงเทพทางรถไฟแทน ครั้งหนึ่งเมื่อรถไฟมาถึงสถานีท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีคนร้ายลักลอบถีบหีบธนบัตรลงจากรถไฟ ธนบัตรที่ถูกลักไปมีชนิด 5 บาท 74,000 ฉบับ ชนิด 10 บาท 224,000 ฉบับ ชนิด 20 บาท 72,000 ฉบับ และชนิด 100 บาท 40,968 ฉบับ และต่อมาพบธนบัตรดังกล่าวมีการพิมพ์ปลอมลายเซ็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้ามาหมุนเวียนในระบบ กระทรวงการคลังได้ออกประกาศวันที่ 24 ส.ค. 2489 แจ้งหมายเลขที่ผิดกฎหมาย และเพื่อมิให้ผู้สุจริตเสียหาย จึงจำเป็นต้องสอบสวนในบางกรณีว่าได้มาโดยสุจริตหรือไม่ ธนบัตรปลอมกลุ่มนี้เรียกกันว่า ธนบัตรไทยถีบ หรือธนบัตรเล้งท่าฉาง

    ธนบัตร 100 บาท รุ่น 1 ประกาศออกใช้เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2486
    ธนบัตร 100 บาท รุ่น 2 ประกาศออกใช้เมื่อวันที่ 5 มึ.ค. 2488

    ขนาดธนบัตร

    10.00 x 17.50 เซนติเมตร

    ธนบัตรด้านหน้า

    องค์ประกอบสำคัญคือพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลทรงเครื่องแบบจักรีอยู่เบื้องขวา ด้านซ้ายเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณ ตรงกลางเป็นภาพลายเฟื่องเป็นพื้นหลังของข้อความ "รัฐบาลไทย" มีรูปไอราพตที่มุมขวาล่าง หมวดอักษรและหมายเลขพิมพ์ด้วยหมึกสีแดง

    ธนบัตรด้านหลัง

    ภาพประธานคือภาพวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวังอยู่ภายในกรอบล้อมรอบด้วยลายเฟื่อง มีลายน้ำรูปพานรัฐธรรมนูญในวงกลม พิมพ์ข้อความแจ้งโทษของการปลอมแปลงธนบัตรไว้ที่ตรงกลางด้านล่าง

    ลายมือชื่อบนธนบัตร

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    พลเอก เภา เพียรเลิศ บริภัณฑ์ยุทธกิจ (17 ธ.ค. 2484 - 1 ส.ค. 2487)
    นายเล้ง ศรีสมวงศ์ (10 ม.ค. 2488 - 31 ส.ค. 2488)